
รีวิวหนัง ปรากฎการณ์ หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า ‘Resemblance’ ที่คราวนี้จุมภฏนำเรื่องสั้น 2 เรื่องได้แก่ “นอนใต้ละอองหนาว” ของ ปราบดา หยุ่น และ “สนไซเปรส” โดย จิรัฏฐ์ ประเสริฐทรัพย์ หลังมีส่วนร่วมในการเขียนบทภาพยนตร์ด้วย เรื่องราวจะวนเวียนอยู่กับเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เหล่านางแบบหายเข้าไปในป่าโดยไม่ทราบสาเหตุ และการปรากฎตัวของบ็อบบี้ (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) หนุ่มหล่อผู้คลั่งไคล้เซ็กส์ที่ยึดนางแบบสาวสวยเป็นวัตถุทางเพศและลงเอยด้วยการให้พวกเขาหาคู่ก่อนจะหายเข้าไปในป่า โจ (คิมนัย อันติมานนท์) นายตำรวจหนุ่มที่แฟนสาวหายตัวไปอย่างลึกลับต้องค้นหาความจริง
ยกตัวอย่างเช่น สิ่งที่ถือว่าเป็นจุดบอดในการผลิตในงานสุดท้าย ชุมพจน์ดูซึมซาบในภาพวาดมากขึ้น มันทำให้ภาพดูเป็นภาพยนตร์มากกว่าวิดีโอก่อนหน้า และยังมีเอฟเฟกต์ภาพที่น่าสนใจของต้นไม้ CG ล้วนๆ นอกจากนี้ การเลือกนักแสดงสาวอย่าง อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม มารับบทนำ ก็ถือเป็นการแสดงที่จริงจังมากขึ้นของจุมภฏในการผลิตภาพยนตร์ในครั้งนี้

รีวิวหนัง ปรากฎการณ์ แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายแม้คัมพจน์จะเลือกองค์ประกอบที่ดีมาแสดงในหนังเรื่องนี้ แต่ “ปรากฏการณ์” ก็ยังมีช่องโหว่ที่เห็นได้ชัดจากบทแม้จะบอกว่าสร้างจากเรื่องสั้นก็เข้าใจว่าต้องมาจากปรัชญาและสัญลักษณ์ต่างๆ มากมาย ทั้งโรคประหลาดที่ทำให้คนติดเซ็กส์และการเจริญเติบโตของต้นไม้ที่อาศัยเพศของมนุษย์ในการสืบพันธุ์ แต่การสร้างตัวละครเพื่อนำผู้ชมไปสู่สิ่งที่ภาพยนตร์พยายามจะบอกกลับล้มเหลว ทิ้งผู้ชมไว้เบื้องหลัง ตัวอย่างที่เด่นที่สุดก็ต้องคุณเจจินตัยของโจ้ที่ต้องยอมรับว่าการแสดงละครของเขาแปลกกว่าโรคร้ายที่ทำให้คนตีกัน แม้ว่าจะมีฉากสืบสวนของกล้องวงจรปิดในภาพยนตร์หรืออะไรก็ตามที่ตำรวจทำในภาพยนตร์ ผู้ชมอย่างเรายังคงพบว่ามันยากที่จะเชื่อว่าหากคนที่เรารักหายไป ตำรวจก็หวังว่าจะได้

อีกตัวละครที่ดูเหมือนหนังจะเอาเป็นจุดขายได้แก่ ปราณนา ที่ได้ ไพลิน ธิรา โคลเล็ค มิสอินเตอร์เนชันแนล 2015 และนางแบบลูกครึ่งไทย-เยอรมันที่มีหนังไต้หวันอย่าง Go Lala Go 2 ซึ่งเป็นเหยื่อรายล่าสุดของบ็อบบี้ หนังไม่ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ Prana ในฐานะบุคคลมากนัก เพิ่งรู้ว่าเป็นนางแบบ แล้วก็หายไป แน่นอนว่าหนังไม่ได้ให้ไพลิน ธีระโชว์ ฝีมือการแสดงมากนักนอกจากโชว์หุ่นเซ็กซี่ และฉากนู้ด ในหนังกับเมธาวี วิเศษ Miss Supranational Thailand 2010 ยอมรับว่าหุ่นดีทั้งคู่จริงๆ แต่นั่นไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราว

และที่ดูแตกต่างออกไปมากคือฉากที่ชายหนุ่มพูดกับพระเรื่องผิดศีลและทำให้น้ำอสุจิเคลื่อนขณะนอนหลับ ในขณะที่ชายหนุ่มนอนหลับอยู่ในอารามเขาเห็นตัวละครหญิงสองคนในย่อหน้าที่แล้วฉากนี้แทบไม่มีผลกระทบต่อโครงเรื่องและทำให้จังหวะของภาพยนตร์สะดุดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมอง “ปรากฏการณ์” นี้ในแง่มุมใดก็ถือได้ว่าจะทำให้ตลาดภาพยนตร์ไทยในปี 2566 มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการวางตำแหน่งตัวเองให้เป็นหนังแนวอีโรติก ไซไฟ แต่ด้วยความบกพร่องของบทและผู้กำกับอาจเป็นงานที่ไม่น่าดูเอาเสียเลย
ติดตามรีวิวหนังใหม่ : รีวิวหนัง
สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : nangdeereview
รีวิวหนังใหม่ : They Cloned Tyrone