รีวิวหนัง Assassin Club บอกเล่าเรื่องราวของมอร์แกน ทหารผ่านศึกหนุ่มที่ผันตัวมาเป็นมือสังหารมืออาชีพ เป็นงานสุดท้ายก่อนลาออกจากวงการ เขาต้องพยายามเอาหัวของมือสังหารทั้ง 7 ที่กระจายอยู่ทั่วโลกออกให้ได้ แต่ในปฏิบัติการกลับดูเหมือนตัวเขาเองจะตกเป็นเป้าหมายหนึ่งที่ได้รับคำสั่งให้เก็บตัว ทำให้เขาต้องรีบสืบหาความจริงเบื้องหลังและกำจัดผู้บงการให้ได้ ของเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด
นี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับชาวฝรั่งเศส “กามีย์ เดลามาร์เร” ที่เคยแจ้งเกิดมาจากหนัง Brick Mansions และทำภาคต่อให้ The Transporter Refueled เมื่อหลายปีก่อน แน่นอนว่าเขายังทำหนังแอ็คชั่นทริลเลอร์ในสไตล์ของตัวเองได้ดี แม้ว่าผลงานที่ผ่านมาของเขาจะไม่ได้รับการวิจารณ์ที่ดีนัก แต่เขาก็ยังไม่ล้มเลิกความกระตือรือร้นที่จะสร้างภาพยนตร์แนวนี้ต่อไป
ในทำนองเดียวกันใน “The Assassin’s Club” มันยังคงอยู่ในรูปแบบดั้งเดิมของผู้กำกับ เรายังสัมผัสได้ถึงลายเซ็นของเขา น่าเสียดายที่สิ่งเดียวที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เนื่องจากแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคิดสคริปต์ที่ตายแล้วโดยสิ้นเชิง นี่คือผลงานของ “โธมัส ดันน์” นักเขียนผู้มีผลงานยอดเยี่ยมในอดีตน้อยมาก เขาเคยเขียนเรื่องสั้นและหนังระทึกขวัญเกรดบีเท่านั้น ไดนามิกของสคริปต์นำไปสู่ความไร้น้ำหนักเกือบทั้งหมดเมื่อเข้าใกล้โดยภาพยนตร์แอคชั่นนักฆ่าที่เข้มข้นเรื่องนี้
ยิ่งดูยิ่งเหนื่อย เพราะทั้ง ๆ ที่หนังเรื่องนี้อาจจะค่อนข้างซีเรียส แต่แค่ 10 นาทีแรกของเรื่องก็ทำเอาเราเลิกสนใจ หลังจากนั้นมันจะกลายเป็นภาพยนตร์ที่สื่อถึงอารมณ์ที่หยาบกระด้างอย่างอธิบายไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าหนังจะเอาดีด้านไหน. ถ้าการต่อสู้เป็นเรื่องสนุก ทำไมไม่ล่ะ? การขัดจังหวะการเจรจาของตัวละครนั้นไม่น่าพอใจ เรื่องราวทั้งหมดจะน่าเบื่อ
ในขณะที่ภาพยนตร์เรื่องนี้มีวัตถุดิบชั้นเยี่ยมสำหรับการคัดเลือกนักแสดงระดับแนวหน้าอย่าง “เฮนรี โกลดิง” “แซม นีล” หรือ “นูมิ ราเพซ” บทก็ไม่มีน้ำหนักเลย มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยในการดึงตัวละครเข้ามาและทำให้นักแสดงโดดเด่น แม้ว่าพวกเขาจะพยายามทำผลงานให้ดีก็ตาม แต่มันกลับล้มเหลวอย่างน่าผิดหวัง และ Assassin Club ก็พิสูจน์แล้วว่าแทบจะไม่น่าจดจำ เป็นหนังเกือบ 2 ชม. และแอบเสียเวลาพอสมควร
โดยรวมแล้ว รีวิวหนัง Assassin Club เป็นความล้มเหลวในเกือบทุกองค์ประกอบ และไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับความพยายามของ John Wick ที่จะเดินตามรอยเท้าของ John Wick เนื่องจากภาพยนตร์ไม่สามารถวางเคียงข้างกันได้ ข้อเสียหลักคือสคริปต์ซึ่งนำเรื่องราวทั้งหมดไปสู่จุดจบที่เลวร้าย นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยบทสนทนาปลอม ๆ ที่จริงจังซึ่งทำให้รายการดูปลอม อีกทั้งยังเต็มไปด้วยบทสนทนาจริงจังแบบปลอม ๆ พลอยทำให้การแสดงดูปลอมตามไปด้วย และยังปลอมไปกระทั่งเปลวไฟในเตาผิง นี่คือหนังที่ได้แต่คิดแล้วคิดอีกว่า…ผ่านการอนุมัติให้สร้างได้อย่างไร?
ติดตามรีวิวหนังใหม่ : รีวิวหนัง
สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : nangdeereview
รีวิวหนังใหม่ : Fatal Seduction
