เรื่องราวหนัง Day Shift งานต้องล่า
หนังล่าแวมไพร์ดูเหมือนจะกลายเป็นอีกรูปแบบการขายหนังจอเล็กสำหรับบริการสตรีมมิ่ง โดยล่าสุดคือ รีวิวหนัง Day Shift งานต้องล่า หนังแอคชั่นที่มีภารกิจล่าอันเข้มข้น นี่คือการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับแวมไพร์ เนื้อเรื่องเดียวกันต้องใช้สูตรสำเร็จและนำเสนออย่างสนุกสนานและบันเทิงใจ แต่สามารถชนะใจคนดูได้หรือไม่?
“Day Shift งานต้องล่า” บอกเล่าเรื่องราวของ บั๊ด คุณพ่อชนชั้นแรงงานที่ทำงานอย่างหนักเพื่อให้ลูกสาวผู้รอบรู้มีชีวิตที่ดี แต่ความซ้ำซากจำเจในการทำความสะอาดสระว่ายน้ำในหุบเขาซานเฟอร์นันโดเป็นเพียงผิวเผินเท่านั้น เพราะแหล่งรายได้ที่แท้จริงของเขามาจากการล่าแวมไพร์สำหรับสหภาพนักล่าแวมไพร์นานาชาติเฉพาะช่วงกะกลางวันเท่านั้นที่เขามีโอกาสตามล่าและรับงานนี้
ผลงานเรื่องล่าสุดของ เจ.เจ. เพอร์รี่
นี่เป็นผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของ “เจ.เจ. เพอร์รี่” สตั๊นท์แมนที่อยู่ในวงการนี้มากว่า 30 ปี และผลงานเรื่องแรกของเขาก็เป็นผลงานที่น่าพึงพอใจไม่ว่ามาตรฐานใดก็ตาม เขานำประสบการณ์อันยาวนานของเขามารวมเข้ากับภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือการออกแบบฉากสตั๊นท์ต่างๆในหนัง ต้องบอกว่า… ออกแบบได้ดีมากและคุ้มค่ากับราคา
สิ่งที่โดดเด่นสุดของเรื่องนี้
ใช่แล้ว…สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ “Day Shift” ก็คือฉากแอ็กชันต่างๆ ที่อาจจะไม่ได้เพิ่มมากจนน่าเบื่อ แต่ก็ผสมผสานรสชาติได้ดี มีฉากสตันท์ไล่ล่าแวมไพร์ การออกแบบรูปทรงที่หรูหราของแวมไพร์นั้นช่างจินตนาการเหลือเกินจนเกินคำบรรยาย และมีฉากไล่ล่าทั่วเมืองที่ดูเหมือนจะใช้สูตรเดียวกันกับภาพยนตร์ที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วและอื่นๆ ที่คล้ายกัน แม้ว่านี่จะเป็นองค์ประกอบที่ทำให้หนังทำได้ดีมากก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าหนังจะมีส่วนที่ดีและนั่นก็ประมาณนั้น
น่าเสียดายที่ Day Shift ยังคงมีสูตรสำเร็จเหมือนเดิม เช่น การซื้อของที่หาซื้อทั่วไปแล้วนำมารวมกันตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง สคริปต์ยังคงธรรมดามาก ฉันยอมรับว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงสร้างแรงดึงดูดได้ไม่มากจนทำให้ผู้คนจับจ้องไปที่หน้าจอเพื่อรอชม เป็นหนังแอคชั่นที่ดำเนินเรื่องดีและยังคงความบันเทิงอยู่ แต่หนังเรื่องนี้ไม่มีช่วงเวลาหรืออะไรที่น่าจดจำเลย เมื่อดูจบ..ก็คือผ่านเลยไป
การคัดเลือกตัวนักเสดง
แน่นอนว่า รีวิวหนัง Day Shift อาจรอดพ้นความตายได้อย่างหวุดหวิดเนื่องจากการคัดเลือกนักแสดงจริง และ “Jamie Foxx” คือตัวอย่างสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ นี่คือภาพยนตร์ของเขา แต่บทและตัวละครของเขาไม่มีอะไรใหม่ เขาเป็นกบฏ ต่อสู้เพื่อชีวิตของเขา แต่ยังต่อสู้เพื่อชีวิตของเขาเป็นการตอบแทน อะไรทำนองนั้น แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพของเขา เขาจึงสามารถควบคุมภาพยนตร์ทั้งเรื่องได้อย่างเหมาะสม เหมือนกับที่ “Snoop Dog” แม้จะน้อยแต่จัดจ้าน ออกมาแต่ละซีน..ย่อมต้องมีซีน
“เดฟ ฟรังโก” เป็นอีกหนึ่งโจร เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ล้มเหลวในการทำให้ศักยภาพของเขาโดดเด่นยิ่งขึ้น แม้ว่าเขาจะเป็นนักแสดงที่เต็มไปด้วยสิ่งดีๆ แต่ในเรื่องนี้เขาให้ทุกสิ่งที่เขามี เพียงแต่ว่ายังไม่มีที่ว่างสำหรับเขามากนัก และตัวละครของตัวละครอื่นๆ ที่เพิ่มเข้ามาก็แทบจะกลืนไปกับสคริปต์ง่ายๆ ไปแล้ว ไม่มีอะไรพิเศษเกิดขึ้น
สรุปโดยรวม
โดยสรุปแล้ว Day Shift มีกลเม็ดและเคล็ดลับแบบเดียวกัน เช่น นำสูตรสำเร็จจากภาพยนตร์แวมไพร์หรือซอมบี้มาผสมเข้าด้วยกันและเพิ่มลูกเล่นใหม่ แน่นอนว่ามันสร้างความสนุกสนานและรสชาติได้อย่างมาก แต่ไม่มีอะไรใหม่จะทำให้คุณว้าว ข้อดีของหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นการออกแบบสตันท์ตามประสบการณ์ของผู้กำกับ เชื่อกันว่านักแสดงจะสามารถนำอะไรมากมายมาสู่ภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ดูแล้วหนังก็ยังไม่ได้สร้างอะไรน่าจดจำเลย
ติดตามรีวิวหนังใหม่ : รีวิวหนัง
สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : nangdeereview
รีวิวหนังใหม่ : Killers of the Flower Moon
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ : รีวิวหนัง
