
เรื่องราวหนัง Killers of the Flower Moon
เพียงแค่ได้ยินชื่อ “มาร์ติน สกอร์เซซี” คลุกเคล้าเข้ากับ “ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ” รวมถึงส่วนผสมพิเศษอย่าง “โรเบิร์ต เดอ นีโร” ที่สามารถคาดหวังได้สูง เพราะฉันเชื่อว่า รีวิวหนัง Killers of the Flower Moon จะเป็นละครที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับภัยคุกคามต่อชนพื้นเมืองอเมริกัน
Killers of the Flower Moon เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษปี 1920 เมื่อมีการค้นพบน้ำมันในรัฐโอคลาโฮมา เมืองโอเซจพวกเขาเริ่มถูกแทรกซึมโดยผู้ตั้งถิ่นฐานผิวขาวที่เลอะเทอะในกิจการเชิงพาณิชย์ สิ่งนี้นำไปสู่การสังหารหมู่อันน่าสลดใจของชาวโอเซจจนเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสำนักงานสอบสวนกลางเข้ามาไขปริศนา ทุกอย่างกลายเป็นโรงละครขนาดใหญ่และแล้วก็มาถึงไฮไลท์ของหนังเรื่องนี้ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่หนังจะขยายความยาวเป็น 3 ชั่วโมง 20 นาที ถือได้ว่าเป็นหนังยาวอีกเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ฮอลลีวูด แต่ถึงแม้หนังจะยาวมากแต่ภาพบนหน้าจอยังจดจำคนดูได้ยาวนานกว่า 3 ชั่วโมง ราวกับเข้าสู่ภาวะมึนงงที่เต็มไปด้วยประสบการณ์อันเอร็ดอร่อย

หนัง Killers of the Flower Moon ดัดเเปลงมาจากนวนิยายชื่อดัง
โดย Killers of the Flower Moon ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อดังที่ตีพิมพ์โดย “David Grann” ในปี 2017 ในครั้งนี้ นักเขียนมือรางวัลอย่าง “Eli Roth” ได้รับเชิญให้มาช่วยเขียนบทภาพยนตร์ โดยมี Martin Scorsese ที่เคยช่วยเขียนบท สคริปต์ให้ความร่วมมือ หนังเรื่องนี้มีเวทย์มนตร์ที่เหลือเชื่อ นิยายที่เป็นรากฐานของหนังมีความยาวมากกว่า 350 หน้า จึงไม่แปลกใจเลยที่จะใช้เวลาฉายบนจอภาพยนตร์นานมาก
แน่นอนว่า มาร์ติน สกอร์เซซี ยังคงตกแต่งผลงานของเขาด้วยสไตล์ของผู้กำกับระดับปรมาจารย์ นี่เป็นการสร้างสรรค์ที่ละเอียดและพิถีพิถันโดยถ่ายทอดแบบนาทีต่อนาที ถ้าเราพูดถึงเนื้อเรื่องนั้น ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า Killers of the Flower Moon กลั่นกรองเรื่องราวให้เป็นเรื่องราวที่สนุกสนานและน่าดึงดูด

การเก็บรายละเอียดของหนัง Killers of the Flower Moon
หนังสามารถเก็บรายละเอียดของยุคนั้นไว้เป็นฉากหลังได้ค่อนข้างลึกซึ้ง บางทีผู้ชมอาจไม่จำเป็นต้องเจาะลึกขนาดนั้น แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังรวบรวมและเฉลิมฉลองอัตลักษณ์ของอินเดียอีกด้วย ชนพื้นเมืองของทวีปอเมริกาเหนือมีความซื่อสัตย์และให้ความเคารพ กลายเป็นหนังที่มีความยาวมากกว่า 200 นาที สามารถรับชมได้ต่อเนื่องทุกที่โดยไม่ต้องลุกจากเตียง
ในแง่ขององค์ประกอบการกำกับ “Killers of the Flower Moon” เกือบจะสมบูรณ์แบบ องค์ประกอบฉากและองค์ประกอบศิลปะต่างๆถือได้ว่าเป็นความใส่ใจในรายละเอียดขั้นสูงสุดมันเป็นการผลิตระดับตำนานจริงๆมุมและมุมการถ่ายภาพยังคงเห็นสไตล์ของลุงมาร์ตี้เป็นครั้งคราวโดยรวมแล้วมันคือหนังของ Martin Scorsese

องค์ประกอบหนัง Killers of the Flower Moon
ดังที่กล่าวไปแล้ว มันคุ้มค่าที่จะนั่งดูนักแสดงแสดง และลีโอนาร์โด ดีคาปริโอก็เล่นบทนี้ได้อย่างราบรื่นพอๆ กับที่เขาปอกกล้วยแล้วอมเข้าปากได้ การแสดงของเขาไม่ได้มีอะไรให้ทำมากนัก การตีความและการแสดงตัวละครของเขาทำให้ผู้ชมเชื่อว่าเขาเป็นตัวละครตัวนี้ตั้งแต่นาทีแรกที่เขาปรากฏตัว ความเป็นมืออาชีพของเขาช่วยรักษาภาพยนตร์ทั้งเรื่องได้จริงๆ อีกดาราตัวปั่นของเรื่องนี้ก็คือ โรเบิร์ต เดอ นีโร ในบทบาทที่น่าสนใจอีกบทบาทหนึ่งจากอาชีพการแสดงเก่าของเขา เขาคิดว่าบทบาทนี้ทำให้เขามีกำลังใจมากมาย ตัวละครเต็มไปด้วยมิติและด้านที่แตกต่างกัน มันเป็นสิ่งที่ผู้ชมชอบที่จะเกลียด และนักแสดงที่เชี่ยวชาญคนนี้ก็ทำให้มันไหลลื่น
เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง รีวิวหนัง Killers of the Flower Moon แต่งโดย “ร็อบบี โรเบิร์ตสัน” ซึ่งก็ถือเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ บทประพันธ์ดนตรีที่ผสมผสานอย่างกลมกลืนกับวัฒนธรรมอินเดีย นี่คือสิ่งที่ช่วยกำหนดอารมณ์ของหนัง กำหนดอารมณ์เพลงเพราะมาก จังหวะของเพลงก็ลงตัวและลงตัวมาก ฉันเชื่อว่านี่ควรเป็นผลงานที่สามารถส่งเข้าเวทีออสการ์ได้อย่างง่ายดาย

สรุปโดยรวม
โดยรวมแล้ว “Killers of the Flower Moon” กลายเป็นผลงานระดับตำนานอีกเรื่องหนึ่งของผู้สร้างและนักแสดง ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของโศกนาฏกรรมที่น่าหดหู่ในรูปแบบของละครอาชญากรรม แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้ชมวิตกกังวล เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างดราม่าและดาร์กคอมเมดี้ที่เข้ากันอย่างลงตัว
โดยเฉพาะฉากสุดท้ายของหนังถือเป็นลูกเล่นที่มาร์ติน สกอร์เซซีเข้าใจและผลิตขึ้นมาจริงๆ และยังถือได้ว่าเป็นฉากสุดท้ายที่ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ของผู้ชมอีกด้วย และนี่ได้กลายเป็นหนึ่งในฉากที่น่าจดจำที่สุดในหนังเรื่องนี้ ลองนึกดูว่าเราโชคดีแค่ไหนที่มีโอกาสได้ดู Killers of the Flower Moon ทั้งเรื่องในโรงภาพยนตร์ ทั้งๆ ที่เป็นเพียงแค่ภาพยนตร์สตรีมมิ่งจอเล็กๆ…มันดีจริงๆ
ติดตามรีวิวหนังใหม่ : รีวิวหนัง
สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : nangdeereview
รีวิวหนังใหม่ : The Burial ความยุติธรรมที่ถูกฝัง
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ : รีวิวหนัง