
เรื่องราวหนัง My Policeman
รีวิวหนัง My Policeman ขอเพียงหัวใจได้มีรัก บอกเล่าเรื่องราวของคนสามคนที่มิตรภาพกลายเป็นต้นตอของบาดแผลในความสัมพันธ์ของพวกเขา เมื่อแพทริค ชายสูงอายุที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของแมเรียนและทอม เพื่อนเก่าเมื่อหลายสิบปีก่อนเพื่อพักฟื้น นั่นกลายเป็นจุดประกายที่ย้อนไปสู่อดีต และความรักที่พวกเขาร่วมงานกันเพื่อบรรลุข้ามขอบเขต และกลายเป็นบาดแผลของวันนี้
ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยายรักชื่อเดียวกันโดย “เบธาน โรเบิตส์” และบทภาพยนตร์ได้รับการช่วยเหลือจาก “รอน นิสวอเนอร์” นักเขียนบทมากทักษะที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในฟิลาเดลเฟีย ผนึกกำลังกับนักแสดง “ไมเคิล กรานเดจ” ที่เดิมเป็นผู้กำกับ สานต่อเรื่องราวที่สวยงามเกี่ยวกับมิตรภาพและความสัมพันธ์ทางศีลธรรม มันมาจากความกลัวและความเห็นแก่ตัวของมนุษย์

ความเรียบง่ายของหนัง My Policeman
โทนและจังหวะของหนัง รีวิวหนัง My Policeman อาจจะเรียบง่ายและคมชัดเล็กน้อย สไตล์การเล่าเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นไปตามมาตรฐานและสูตรตามแบบฉบับของภาพยนตร์อังกฤษ หนังเล่าเรื่องสลับกันระหว่างปัจจุบันและอดีต น่าเสียดายที่จุดตัดกันนี้ทำลายอารมณ์ของหนัง นอกจากนี้เนื้อเรื่องและสคริปต์ยังให้ความรู้สึกปลอดภัยอีกด้วย เรื่องราวถักทออย่างสวยงามแต่ไม่จริงใจพอ มันไม่ได้สร้างสิ่งใหม่ให้กับผู้ชม
แน่นอนว่าหนังพยายามที่จะรวบรวมความงดงามของความรักที่ไม่จำกัดเพศเอาไว้ เพียงแต่หนังเรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สังคมยังไม่ยอมรับความหลากหลายทางเพศ การรักร่วมเพศยังคงเป็นสิ่งต้องห้าม และการเว้นจังหวะของหนังเองก็ไม่ได้น่าดึงดูดจนเกินไป เป็นภาพยนตร์โรแมนติกเกี่ยวกับความรักต้องห้ามระหว่างคู่รักเกย์ กฎเกณฑ์ทางสังคมไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกละอายใจเลย

การดําเนินเรื่องของหนัง
เพียงแต่ว่าหนังเรื่องนี้ไม่ได้กลมกล่อมเหมือนหนังประเภทเดียวกันหรือห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบอย่าง Brokeback Mountain เท่านั้นเอง หนังดำเนินไปในทิศทางที่ค่อนข้างน่าเบื่อ ไม่หรูหราเกินไปแต่ก็เต็มไปด้วยมุมที่คมชัดในสิ่งที่คุณต้องการสื่อ แม้ว่าฉันจะอธิบายได้ไม่ไพเราะนักก็ตาม
ในด้านทักษะการแสดงถือได้ว่าเป็นไปตามมาตรฐานของแฮร์รี่ สไตล์สที่เพิ่งเริ่มต้นอาชีพการแสดง บทบาทอาจจะมากเกินไปสำหรับเขานิดหน่อย แต่เขาก็ยังจัดการมันได้ดี แม้ว่าจะไม่ใช่การแสดงที่ดีที่สุดของเขา แต่ตัวละครของ เอ็มม่า คอร์ริน ก็ค่อนข้างดีในตัวเธอเอง แต่สไตล์การแสดงของเธอสามารถควบคุมได้
ขณะที่ “เดวิด ดอว์สัน” ถือเป็นนักแสดงอีกคนหนึ่งที่ได้รับบทที่ดีมาก มีเรื่องให้เล่นมากมาย ด้วยการแสดงของเขาในบทบาทนี้และการออกแบบท่าต่างๆ เขาทำได้ดีมาก แต่มันก็ยังไม่สมบูรณ์แบบ นอกจากนี้นักแสดงนำทั้งสามยังส่งเสริมการแสดงของกันและกันได้เป็นอย่างดีเมื่ออยู่บนหน้าจอ พร้อมด้วยนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง “จีน่า แม็คคี”, “ไลนัส โรอัช” และ “รูเพิร์ต เอเวอร์เรตต์” แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีฉากที่โดดเด่นมากนักก็ตาม แต่พวกเขาก็แสดงได้ยอดเยี่ยมและน้อยมาก

สรุปโดยรวม
สุดท้ายแล้วนั้น My Policeman เป็นมากกว่าดราม่าโรแมนติกเกี่ยวกับเกย์ที่กำลังซ่อนตัวอยู่ และคำถามของภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ที่ต้องการจะถ่ายทอดสู่ผู้ชม ด้วยความสัมพันธ์และมิตรภาพอันแปลกประหลาดของคนทั้งสามนี้ ปมสามเหลี่ยมจึงก่อตัวขึ้นโดยไม่ประสบผลสำเร็จ แม้แต่ความรักที่บริสุทธิ์ที่สุดก็ยังกลายเป็นบาดแผลที่เจ็บปวดที่คงอยู่กับเราไปอีกนาน
My Policeman อาจไม่ใช่ภาพยนตร์ LGTBQ+ ที่สุดในหลายๆ ด้าน แต่ก็มีข้อความที่ใหญ่โตและทรงพลัง ผ่านมุมมองและความยากลำบากของชีวิตจากรุ่นสู่รุ่น ทุกสิ่งในหนังล้วนสวยงาม การแสดงเพียงอย่างเดียวในบรรยากาศต่างๆ อาจสร้างความประทับใจได้ไม่เต็มที่ แต่หนังเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมทางเพศอย่างลึกซึ้งจนถึงทุกวันนี้
ติดตามรีวิวหนังใหม่ : รีวิวหนัง
สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : nangdeereview
รีวิวหนังใหม่ : Hopeless คน จน ตรอก
ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ : รีวิวหนัง