รีวิวหนัง Perfect Addiction บอกเล่าเรื่องราวของเซียนนา โค้ชศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานสาวที่หลงรักแจ็คแชมป์มวย แต่ในขณะนี้เธอเห็นภาพที่น่าสะเทือนใจต่อหน้าเธอ เพราะแฟนแอบนอกใจพี่สาว ปล่อยให้เธอตัดใจจากชีวิตของเขาด้วยความแค้นที่ยังคงแผดเผาอยู่ในใจ
ต่อมา เซียนน่าได้ตัดสินใจเริ่มเป็นครูฝึกให้กับ เคย์เดน นักสู้ที่เคยแพ้มวยให้กับแจ็ชบนสังเวียนมาก่อนเธอให้การฝึกศิลปะการต่อสู้แก่เขา และนั่นนำมาซึ่งโอกาสใหม่ในการเข้าร่วมกับ Jake เพื่อล้างแค้นในสังเวียน เธอจะใช้จังหวะนี้เพื่อสอนแฟนนอกใจของเธอว่าเขาให้เกียรติ รัก และซื่อสัตย์มาโดยตลอด แต่ความใกล้ชิดและความผูกพันระหว่างเซียนนาและเคย์เดนก่อให้เกิดความรักครั้งใหม่โดยไม่รู้ตัว
อย่างที่บอกไปแล้วว่า Perfect Addiction เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ “Casteil Lan” ผู้กำกับหญิงของซีรีส์เรื่อง “After” และดัดแปลงมาจากนิยายรักขายดีบนชั้นวางของ “Claudia Tan” ทุกอณูของภาพยนตร์เรื่องนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นของน้ำเน่าและสิ่งหมักหมมที่ไม่เจือปน เพราะธรรมชาติของภาพยนตร์เรื่องนี้แทบจะไม่มีอะไรใหม่เลย ไม่ต่างจาก After แค่ความพัวพันของนักสู้ใต้ดินและรักสามเส้าธรรมดาๆ
แต่อย่างน้อยสูตรสำเร็จของหนังก็ทำให้หนังเรื่องนี้ย่อยง่าย กินง่าย ยกเว้นสูตรห่วย ยังคงเป็นหนังที่ดูสนุกแต่ไม่ได้อินและประทับใจเท่าไหร่ ต้องยอมรับว่าฉากต่อสู้บนเวทีหนังทำได้น่าพอใจทีเดียว ดีกรีความดุเดือดไม่ได้ลดลงไปถึงความสัมพันธ์ของตัวละครที่ค่อนข้างเรียบง่ายแทบไม่มีอะไรซับซ้อนไปกว่ารักสามเส้าปกติของเราสามคน
ต้องให้เครดิตนักแสดงด้วย เพราะแม้จะมีสคริปต์เส็งเคร็ง พวกเขาก็ยังเต็มไปด้วยตัวละครที่ได้รับมอบหมาย และ “Kiana Madeira” และ “Ross Butler” คือสองคนที่ยึดหนังทั้งเรื่องไว้อย่างเหนียวแน่น การแสดงของพวกเขาถือว่าได้มาตรฐาน แม้ว่าตัวละครจะไม่ซับซ้อนสำหรับขนาดของพวกเขา แต่อย่างน้อยพวกเขาก็มีคุณสมบัติทางเคมีที่ยอดเยี่ยม
และหนังก็ยังมี “แมทธิว นอสกา”, “มานู เบนเน็ตต์”, “นิโคลัส ดูเวอร์นาย” และ “บรี วินสโลว” มาช่วยสมทบเป็นองค์ประกอบเสริมให้กับหนังเรื่องนี้ สิ่งนี้อาจไม่สร้างความรำคาญ แต่ช่วยเติมเต็มและทำให้ดูดีขึ้น ในขณะที่งานสร้างอื่นๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่มีอะไรพิเศษ แต่งานด้านภาพยังคงเหมือนกับงานก่อนหน้าของผู้กำกับหญิง ยังคงใช้มุมกล้องและมุมชวนฝันเพื่อถ่ายทอดความสัมพันธ์รักแบบเก่า แต่เอฟเฟกต์ยังดีอยู่
ดังนั้นโดยภาพรวมแล้ว รีวิวหนัง Perfect Addiction ก็เป็นเพียงหนังโรแมนติกจากนิยายน้ำเน่า ที่ยังคงเคารพความน้ำเน่าเอาไว้ได้ดี หนังอาจจะเคลือบความเซ็กซี่อีโรติกเข้าไปเป็นฉากหน้า แต่สิ่งล่อใจเหล่านั้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่รากฐานที่สำคัญเลย เป็นเพียงลูกเล่นที่รวมกันเป็นชิ้นๆ เป็นหนังรักที่ดูง่าย ตลก แต่ไม่น่าจดจำ เป็นเรื่องราวที่ดูผ่านไปอีกครั้ง และเหมือนกับ “The After” ที่ไม่มีอะไรให้พลาดในครึ่งหลัง
ติดตามรีวิวหนังใหม่ : รีวิวหนัง
สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : nangdeereview
รีวิวหนังใหม่ : The Offering มันสิงอยู่ในร่าง
