Slumberland สลัมเบอร์แลนด์ นี่คือการเดินทางสู่ดินแดนใหม่ที่ยอดเยี่ยม Nemo แก่ก่อนวัยและ Flip เพื่อนที่แปลกประหลาดของเธอเริ่มต้นการผจญภัยของชีวิตด้วยกันหลังจากที่ Peter พ่อของเธอหายตัวไปอย่างกะทันหัน ชีวิตอันสงบสุขของนีโมในแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือต้องจบลง เพราะเธอถูกส่งไปยังเมืองเพื่ออาศัยอยู่กับฟิลิป ลุงผู้ใจดีแต่เปิ่นสุดๆ
ชีวิตประจำวันที่โรงเรียนใหม่ในระหว่างวันเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ในเวลากลางคืน แผนที่ลับสู่โลกมหัศจรรย์ของ Slumberland ช่วยให้ Nemo ผูกพันกับ Flip อันธพาลที่สมบูรณ์แบบ แต่น่ารัก ในไม่ช้าเขาก็กลายเป็นคู่หูและผู้นำทางของเธอ และในไม่ช้า นีโมและฟลิปก็ออกเดินทางสู่การผจญภัยสุดมหัศจรรย์ เดินทางผ่านความฝันและหลีกหนีจากฝันร้าย สิ่งนี้ทำให้นีโมปรารถนาให้เธอได้พบกับพ่ออีกครั้ง
ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น Slumberland มีพื้นฐานมาจากการ์ตูนคลาสสิก Little Nemo ของ Windsor McKay ใน Slumberland เป็นเรื่องราวการผจญภัยสำหรับเด็กในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ครั้งนี้ได้ผู้กำกับฝีมือดีอย่าง “ฟรานซิส ลอว์เรนซ์” มาสร้างเป็นหนังแฟนตาซีที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับงานครอบครัว
เราอาจคุ้นเคยกับผลงานก่อนหน้านี้ของเขา ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ Hunger Games หรือ The Red Sparrow แต่เขาแตกแขนงออกไปในด้านการสร้างภาพยนตร์ด้วยผลงานของเขาในซีรีส์ไซไฟเรื่อง Look เรื่องราวได้ร่วมงานกับ “เจสัน โมโมอา” อีกครั้งในรูปแบบของตัวละครที่แตกต่างออกไป และฉันอยากจะบอกว่าวิสัยทัศน์ของเขาทำงานได้ดีมากสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นมุมมองหรือการเสริมจินตนาการต่างๆในเรื่อง
โทนของ Slumberland สลัมเบอร์แลนด์ เป็นสูตรปกติของหนังผจญภัยครอบครัวประเภทนี้ ทุกสิ่งไม่มีขอบเขต เมื่อภาพยนตร์สร้างจากคำว่าแฟนตาซี เพราะทุกสิ่งสามารถเกิดขึ้นได้และจินตนาการนั้นโลดโผน การผลิตและสเปเชียลเอฟเฟกต์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างน่าตื่นตา แม้ว่าภาพย้อนกลับและสีของภาพยนตร์ในบางช่วงจะออกเหลือง แต่ก็มีเหตุผลที่ภาพยนตร์เลือกใช้แสงย้อมเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวจากมุมต่างๆ
การออกแบบการผลิตของภาพยนตร์เรื่องนี้มีมูลค่างบประมาณ 150 ล้านดอลลาร์ แม้จะไม่อลังการที่สุดแต่งานสเปเชียลเอฟเฟกต์และฉากพิเศษของหนังก็ถือว่าพิถีพิถันเช่นกัน และโลกแฟนตาซีที่เสริมสร้างจินตนาการและสัตว์ที่มีรูปร่างและขนาดที่แปลกตาก็เต็มไปด้วยสีสันความบันเทิง
เป็นเรื่องน่าผิดหวังเล็กน้อยที่ส่วนการเล่าเรื่องของ “Slumberland” ไม่ให้ความกลมกล่อมและประกายแห่งความสุขแก่ผู้ชมมากพอ แม้ว่าองค์ประกอบของมันจะเหมือน Monsters Inc. ผสมกับ Inception แต่บางครั้งก็พาพวกเขาสลับไปมาระหว่างโลกแห่งความจริงและโลกแห่งความฝัน ยังเชิญชวนให้ผู้ชมรู้สึกว่าพวกเขาอยากจะหลับในบางจุด
Jason Momoa อาจจะดูแปลกๆ ไปหน่อย แม้ว่าจะไม่ใช่การแสดงที่เป็นตัวเอกก็ตาม นี่อาจเป็นบทบาทแรกของเขาในภาพยนตร์ครอบครัวและในฐานะเพื่อนสนิทของเด็กๆ แม้ว่าร่างกายกำยำของเขาจะดูน่ากลัวไปหน่อยก็ตาม แต่เขาออกแบบการแสดงและตัวละครก็ไม่เสียหาย สนุกกับการแสดงแม้ว่าจะยังทำได้ไม่ดีนัก
ส่วนดาราเด็ก “มาร์โล บัคลี่ย์” ที่เป็นหน้าใหม่ในวงการ แต่ฝีมือก็สนุก หัวใจและภาพลักษณ์ของเธอค่อนข้างชวนให้นึกถึงตัวละคร Saoirse Ronan ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่ฉันเชื่อว่าหญิงสาวคนนี้น่าจะมีอนาคตที่สดใสในอาชีพการแสดงของเธอ
โดยรวมแล้ว Slumberland เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับครอบครัว แต่โครงสร้างและความเข้มข้นของเรื่องราวของภาพยนตร์ยังไม่ค่อยลื่นไหลนัก การเล่าเรื่องยังไม่ได้เชื้อเชิญให้เดินทางไปตามถนนแห่งการผจญภัย ในขณะที่ภาพยนตร์พยายามอย่างมากที่จะรวมการเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อมกับอายุ แต่ก็ไม่เฉียบคมพอ
แม้ว่างานสร้างต่างๆจะทำได้ดี แต่หนังยังไปไม่สุดทางเมื่อเหล่าร่างมารวมกัน มันกลายเป็นสูตรสำเร็จของการผจญภัยแฟนตาซีซ้ำซากที่ประสบความสำเร็จมากพอที่จะทำให้เป็นภาพยนตร์ที่ทุกคนต้องดู แต่ก็ยากที่จะหาจุดแข็งและเอกลักษณ์ของมัน
ติดตามรีวิวหนังใหม่ : รีวิวหนัง
สามารถติดตามข่าวสารวงการภาพยนตร์เพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจของพวกเรา : nangdeereview
